สมาคมอสังหาฯ คาดว่า ปีนี้คอนโดฯขยายตัวดีเพราะสต็อกเหลือน้อย เน้นทำเลรถไฟฟ้าชมพู-เหลือง
แต่แบกต้นทุนเพิ่ม 3-5% เจาะกลุ่มลูกค้าราคาต่ำกว่าล้าน
เรียกว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด สำหรับ อสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากกำลังซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่จัดโปรโมชั่นมากตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สำหรับปีนี้ คอนโดมิเนียมจะซบเซาเหมือนเดิมหรือไม่ต้องมาลุ้นกัน
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย มองว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2565 จะฟื้นกลับมาจากที่ทุกคนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะคนต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองสามารถเดินทางสะดวก โดยคาดว่า น่าจะขยายตัวดีขึ้น 10-15% จากปีที่แล้ว อยู่ที่ -30% เทียบปีก่อน แต่ภาพรวมถือว่ายังติดลบเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด การฟื้นตัวให้กลับมาบวกน่าจะเห็นในปี 2566 ส่วนการเปิดตัวคอนโดฯใหม่คาดว่าเริ่มกลับมาลงทุนมากขึ้น เพราะบางบริษัทเหลือสินค้าเพื่อขายน้อยลง หากคอนโดฯกลับมาฟื้นเชื่อว่าสินค้าแนวราบที่เติบโตอย่างมากในช่วง 2 ปีจะยังโต แต่อาจเติบโตลดลง สำหรับราคาที่อยู่อาศัยปี 2565 ไม่ลดราคารุนแรงเทียบเท่ากับปี 2563-2564 เพราะสต๊อกเหลือน้อยความกดดันก็น้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามสินค้าสร้างใหม่ ทั้งบ้านแนวราบ และคอนโดฯต้องขึ้นราคาเพราะต้นทุนพัฒนาโครงการแพงขึ้น ประเมินว่าราคาที่อยู่อาศัยปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 3-5%
นอกจากนี้ คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ประเมินว่า ทั้งปี มีคอนโดฯ ไม่ต่ำ 24,000 หน่วย มูลค่านับแสนล้านบาท ทำเล กรุงเทพ ชั้นนอก แนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงรามคำแหง – ลำสาลี ,สายสีเหลือง ถนนลาดพร้าว – ศรีนครินทร์ ,สายสีชมพู ช่วง รามอินทรา และ ย่านบางนา ซึ่งผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯส่วนใหญ่ เริ่มเน้นโครงการราคาต่ำล้าน หรือ ต่ำกว่า 50,000 บาท ต่อตร.ม. เจาะกลุ่มนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า หรือเพื่ออยู่อาศัยจริง เปลี่ยน กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีกำลังซื้อ ขณะ เดียวกัน ตลาดไฮเอนด์ กลางเมือง ก็เปลี่ยนรูปแบบเป็น แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ (Branded Residences) พ่วงบริการจากเชนโรงแรมดัง
