• 8 พฤษภาคม 2024
  • Thailand

เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เผยผลประกอบการไตรมาสแรก รายได้ 1,690 ลบ. พร้อมวางเป้ารายได้ทั้งปี 8,500 ลบ.

เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เผยผลประกอบการไตรมาสแรก รายได้ 1,690 ลบ. พร้อมวางเป้ารายได้ทั้งปี 8,500 ลบ.




เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เผยผลประกอบการไตรมาสแรก มีรายได้ 1,690 ลบ. คาดธุรกิจจะฟื้นตัวต่อเนื่องในทุกไตรมาส ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลก



นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)  เผยว่า “เราคาดการณ์ว่าธุรกิจโรงแรมจะกลับมาคึกคักอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ซึ่งรวมถึงโรงแรมของเราที่ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่ในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้ง 5 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ นอกจากนั้นแล้ว SHR ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุกในการทำการตลาด การพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับการจองห้องพักของบริษัทฯ ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการปรับปรุงสินทรัพย์และสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านต่างๆ ให้แก่โรงแรม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของแขกผู้เข้าพักยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ในปี 2565”












ผลการดำเนินงานของพอร์ตโรงแรมในโครงการครอสโร้ด เฟส 1 (CROSSROADS Phase 1) ที่มัลดีฟส์ ในไตรมาส 1 ปี 2565 เป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่สูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 74% ด้วยความโดดเด่นในรูปแบบและองค์ประกอบของโครงการที่แตกต่างจากรีสอร์ททั่วๆ ไป โดยสามารถรองรับการพักผ่อนในรูปแบบไลฟ์สไตล์ครบวงจรที่สุดเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในมัลดีฟส์  ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในมัลดีฟส์ จุดแข็งในการออกแบบโครงการ และการทำการตลาดเชิงรุกของบริษัทฯ ที่สามารถหาลูกค้าหมุนเวียนจากหลากหลายภูมิภาค บริษัทฯ จึงคาดว่าโรงแรมทั้งสองแห่งบนโครงการครอสโร้ด เฟส 1 จะสามารถรักษาอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) ในระดับสูงต่อเนื่องได้ทั้งปี พร้อมกับตั้งเป้าหมายในการเพิ่มอัตราค่าห้องพักต่อคืน หรือ ADR ให้เติบโตขึ้นได้ ผ่านกลยุทธ์การปรับปรุงห้องพักของโรงแรม และการเจาะลูกค้ากลุ่ม High Spending เช่น ชาวยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง เป็นต้น และหากว่าลูกค้ากลุ่มประเทศในเอเชียอย่าง จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลูกค้าหลักของมัลดีฟส์ เริ่มผ่อนปรนมาตรการให้ประชากรเดินทางออกนอกประเทศแล้ว SHR มีความมั่นใจว่าจะมาเสริมทัพให้โครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ มีศักยภาพในการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น พร้อมเป็นจุดหมายปลายทางในฝัน ที่รองรับนักเดินทางได้ทุกกลุ่ม จากทั่วทุกมุมโลก











ด้านโรงแรมในสหราชอาณาจักร คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งสอดคล้องกับฤดูกาลท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนั้น โรงแรมในสหราชอาณาจักรของบริษัทฯ ทั้งหมดเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ตามภูมิภาคในแหล่งท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ ซึ่งมี Pent-up Demand จากอุปสงค์การท่องเที่ยวในประเทศที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ คาดการณ์ผลการดำเนินงานของโรงแรมในสหราชอาณาจักรจะปรับดีขึ้นกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นระดับก่อนโควิด-19 ได้ พร้อมหนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนของพอร์ต ผ่านการปรับปรุงโรงแรมที่มีศักยภาพในการเติบโตเพื่อปรับเพิ่มค่าห้องพักเฉลี่ยให้สูงขึ้น ซึ่งจะสะท้อนผ่านความสามารถในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 เป็นต้นไป ยิ่งไปกว่านั้น เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกของการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ของอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ที่คาดว่าจะฟื้นตัวทั้งใน สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และประเทศไทย โดยเฉพาะโรงแรมทรายลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนให้รายได้ในปี 2565 เติบโตขึ้น











นายเดิร์ก กล่าวปิดท้ายว่า “ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบัน SHR ยังคงเดินหน้าตามแผนการเติบโตในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพและผลตอบแทนของพอร์ตโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยวางงบการลงทุนใน 3 ปีข้างหน้ากว่า 2.8 พันล้านบาท สำหรับเสริมแกร่งกลยุทธ์หมุนเวียนและต่อยอดการลงทุน (Asset Rotation) ตลอดจนการลงทุนในการก่อสร้างโรงแรม SO/Maldives ซึ่งมีแผนเปิดตัวโครงการในปี 2566 นอกจากนั้น SHR ได้วางแผนเพื่อขยายกิจการ โดยวางงบลงทุนสำหรับการควบรวมกิจการ (Merger and acquisition) เพิ่มเติม และยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ประกอบการและบริหารธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ของเราเอง รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรผู้ประกอบการโรงแรมชั้นนำระดับนานาชาติเพื่อขยายธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต”