• 29 เมษายน 2024
  • Thailand

“เอพี ไทยแลนด์” เผยแผนครึ่งปีหลัง เปิดแนวราบ 18 โครงการ มูลค่ารวม 24,030 ลบ.

“เอพี ไทยแลนด์” เผยแผนครึ่งปีหลัง เปิดแนวราบ 18 โครงการ มูลค่ารวม 24,030 ลบ.

“เอพี ไทยแลนด์” เผยแผนครึ่งปีหลัง เปิดตัวบ้านเดี่ยว 18 โครงการ มูลค่ารวม 24,030 ลบ. พร้อมเปิดแบรนด์ใหม่ ‘MODEN’ ราคาเริ่มต้น 3-5 ลบ.


นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่กลุ่มธุรกิจพัฒนาบ้านเดี่ยวสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ โดยเฉพาะการบริหารจัดการในสภาวะวิกฤตการณ์ แพร่ระบาด วันนี้บ้านเดี่ยวเอพี ยังถือครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี พ.ศ. 2558 – 2564) ควบคู่กับการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งในมิติจำนวนและมูลค่าการพัฒนาโครงการใหม่โดยปี 2565 ถือเป็นปีที่บ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการมากสุดถึง 23 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 32,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ถ้าเทียบจากปีก่อนหน้า รวมถึงสัดส่วนการกระจายโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้ บ้านเดี่ยวเอพีจะมีโครงการปูพรมในทุกพื้นที่มากกว่า 50 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลือกที่มากพอที่จะให้ลูกค้าสามารถมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้”









“คีย์ไดรฟ์ที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง มาจากทิศทางการพัฒนาสินค้าที่ชัดเจนในการสร้างความต่างในเรื่องของ Product Offering และ Price Package เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาตัวบ้าน จะต้องตอบได้ในเรื่องความคุ้มค่าทั้งในมิติด้านพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ต้องส่งผลต่อพื้นที่ภายใน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บ้านเดี่ยวเอพีจะต้องส่งมอบความรู้สึกที่มากกว่า ควบคู่ไปกับแพ็กเกจราคาขายที่ลูกค้ารับได้ เมื่อเทียบกับซัพพลายที่เสนอขายอยู่ในทำเลเดียวกัน”


ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่ชำนาญ ทั้งทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายลง หรือการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ความท้าทายใหม่ของปีนี้คือการนำบ้านเดี่ยวเอพีบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยการบุกตลาดใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปในทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่มีสินค้าในพอร์ตเอพี ด้วยแบรนด์สินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า MODEN (โมเดน) ภายใต้มาตรฐานที่ไม่ต่างจากบ้านเดี่ยวเอพีในแบรนด์อื่นๆ  





“ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนซัพพลายที่เกิดขึ้นจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังมีไม่มาก เราจึงอยากใช้ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่เรามีสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพีเรา ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชีวีตดีๆ ที่ต้องการ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวแบรนด์ MODEN ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ต่างจากแบรนด์บ้านเดี่ยวอื่นๆ ของเราที่ประสบความสำเร็จ” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว







นางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “ในปัจจุบันความท้าทายของการพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยวมาถึงจุดที่ยกระดับไปมากกว่า เรื่องของทำเลที่ตั้ง และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ปัจจุบันรูปแบบการใช้พื้นที่ของคนกับฟังก์ชันการใช้งานได้เปลี่ยนแปลงไป COVID-19 กระตุ้นให้เกิดเทรนด์ Home Nesting ขึ้น คือการเนรมิตให้บ้านต้องเป็นทุกอย่างได้ คำว่าที่ทำงาน ก็ลงดีเทลไปได้อีก ที่อาจจะไม่ไช่แค่โต๊ะนั่งประชุมทำงานอย่างเดียว สามารถปรับเป็นสตูดิโอ มุมพักผ่อนในบ้าน ตลอดจนเป็นคาเฟ่เล็กๆ ส่งผลให้การออกแบบบ้านต้องให้ความสำคัญในเรื่อง Flexible Space มากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้ ใช้งานได้จริง ไม่อึดอัด









ครึ่งปีหลังนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีจึงพร้อมเปิดตัว 17 แบบบ้านใหม่ เพื่อส่งมอบความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น กับ 18 โครงการที่เตรียมพร้อมเปิดตัว ประกอบด้วย แบรนด์ THE CITY บ้านเดี่ยวเซกเมนต์ไฮเอนด์  ขนาดที่ดิน 100-127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 386-560 ตารางเมตร  ราคา 12-20 ล้านบาท    แบรนด์ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบน ขนาดที่ดิน 50-62 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203-305 ตารางเมตร ราคา 5-12 ล้านบาท และแบรนด์น้องใหม่ “MODEN” บ้านเดี่ยวสำหรับคน Gen Z ที่มาพร้อมกับ 5 แบบบ้านที่ให้ความรู้สึกใหม่ ขนาดที่ดิน 50-54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 163-227 ตารางเมตร โหมดราคา 3-5 ล้านบาท



“หัวใจของการออกแบบพัฒนาโครงการในวันนี้และในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ต้องกลับมาทำการบ้านในการออกแบบพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าใจอินไซต์ของการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของทุกสมาชิกในครอบครัว เพราะถ้าเราถอดรหัสความต้องการในการใช้พื้นที่จริงๆ ของบ้านหลังหนึ่งแล้วนั้น เราจะพบว่าทั้งเพศ วัย ไลฟ์สไตล์ ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลัง มีรายละเอียดที่การออกแบบจะต้องเข้าไปตอบโจทย์ ที่สำคัญวันนี้ลูกค้ากำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใหม่ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่น่าเบื่อ พื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยในมุมมองใหม่ที่ต่างไปจากเดิม”








“การตอบรับที่ดี ถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญของทีมมาก เพราะเรามั่นใจว่า เราเป็นแบรนด์ที่พัฒนาบ้านอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เรามองว่า ไม่ใช่แค่การได้มาซึ่งที่ดิน และนำแนวความคิดเดิม แบบบ้านเดิมมาสร้างเพื่อขาย แต่เราให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านใหม่ พื้นที่ใช้สอย หน้าตาความสวยงาม ต้องไปพร้อมกับบริบทของโลเคชั่นนั้นจริงๆ รวมถึง เราศึกษาเรื่องเทรนด์ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดมา เราศึกษาพฤติกรรม ความต้องการของวันนี้ ลึกลงไปเรื่อยๆ  ลึกไปถึงการใช้พื้นที่ในบ้าน ว่าแต่ละสมาชิกในครอบครัวเค้าจะสามารถมี connected space, private space ที่ลงตัวที่สุดได้อย่างไร”  นางพิมพรรณ กล่าว









สำหรับในไตรมาส 3 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 8,770 ล้านบาท เป็นแบรนด์ THE CITY จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ THE CITY บางนา จำนวน 167 ยูนิต มูลค่า 2,150 ล้านบาท และโครงการภายใต้แบรนด์ CENTRO จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 6,620 ล้านบาท  พร้อมสร้างสีสันการตลาดไตรมาส 3 ผ่านแคมเปญ THE NEIGHBOR ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน เป็นการต่อยอด จาก MINI SERIES YOUTUBER ที่ทำปีที่แล้ว และได้รับกระแสที่ดี คือการที่เราเชิญคนดัง และเหล่า YouTube ที่เค้าเป็นลูกบ้านเอพี เป็นคนที่ตัดสินใจซื้อ และใช้ชีวิตอยู่จริงมาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้สเปซในบ้านเอพี โครงการภายใต้แบรนด์ MODEN บริษัทฯ เตรียมจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท  ได้แก่ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์, MODEN พระราม 2 และ MODEN บางนา-เทพารักษ์ ราคา 3-5 ล้านบาท