• 4 สิงหาคม 2025
  • Thailand

‘Vitafoods Asia 2025’ ร่วมเป็นกลไก ช่วยผู้ประกอบการไทย ท่ามกลางกระแสรักสุขภาพ

‘Vitafoods Asia 2025’ ร่วมเป็นกลไก ช่วยผู้ประกอบการไทย ท่ามกลางกระแสรักสุขภาพ




อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เตรียมจัดงาน ‘Vitafoods Asia 2025’ ช่วยผู้ประกอบการไทยไปเวทีโลก ภายในปี 2577 ท่ามกลางกระแสรักสุขภาพ



นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ – ภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้จัดงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” (Vitafoods Asia 2025) งานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงผลักดันจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและการป้องกันโรคมากขึ้น โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสมจนทำให้เกิดโรค เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน จากข้อมูลบริษัทวิจัยเอกชน Market Minds Advisory คาดว่าตลาดเสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าราว 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 1.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2577 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 8% ขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทยเอง ก็มีทิศทางการเติบโตที่สอดรับกัน โดยปี 2567 สร้างรายได้กว่า 133.6 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 179.9 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 5.1% ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2573 (ข้อมูลจาก Grand View Research) การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งมีแนวโน้มการบริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การเติบโตของตลาดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์เชิงหน้าที่ โดยครอบคลุมทั้งอาหารเสริมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตสมัยใหม่ ส่งผลให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเทคโนโลยีโภชนาการ มีโอกาสขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต”













ศาสตราจารย์ (วิจัย) ดร. ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ประธานกรรมการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้มุมมองว่า การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยงานวิจัยวัตถุดิบของไทยมีความสำคัญอย่างยิ่ง และถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่ง บพข. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาด้าน Functional Ingredients และ Functional Foods เพื่อเป้าหมายสำคัญในการสร้างระบบนิเวศน์ที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ นอกจากนี้ บพข. ยังมีบทบาทในการผลักดันการขึ้นทะเบียนจัดทำรายชื่อสารสำคัญ (Positive List) สารประกอบฟังก์ชัน สารสกัดจากธรรมชาติ หรือ สมุนไพร การกล่าวอ้างทางสุขภาพให้เป็นตามมาตรฐานสากล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นกลไกลสำคัญที่ยกระดับอาหารและสมุนไพรไทยให้ได้มาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” เป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ยกระดับองค์ความรู้และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วย





นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเสริมว่า อุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพและธุรกิจเสริมอาหารในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเติบโตที่แข็งแกร่ง ด้วยแรงขับเคลื่อนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เทรนด์สินค้าที่หลากหลาย และการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญและมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยที่เสริมทัพ ส.อ.ท. ที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการ “ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค”














ดร. พัชร์ เอกปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ผ่านงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” ว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับบริษัทฯ ในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย สร้างความน่าเชื่อถือ ขยายเครือข่ายธุรกิจ และขับเคลื่อนยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็นผู้นำและสร้างคุณค่าให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพและโภชนาการ




Ms. Jeannie Kwa Senior HCP Marketing Manager, APAC, Representative from Kaneka Corporation กล่าวว่า อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เน้นด้านการชะลอวัย (Healthy Ageing) และการยืดอายุขัย (Longevity) กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคมีความสนใจในการดูแลสุขภาพเชิงรุกและป้องกันความเสื่อมของร่างกายก่อนวัยอันควรมากขึ้น ทำให้เกิดการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาส่วนผสมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนผสมสำคัญที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามอง อาทิ สารเพิ่มระดับ NAD+, สารกลุ่ม Senolytics, สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Potent Antioxidants), วิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินดี แมกนีเซียม โอเมก้า 3 ฯลฯ รวมถึง คอลลาเจน เป็นต้น