“สมาคมสถาปนิก” เตรียมจัดงานสถาปนิก’69 ด้วยแนวคิด สติมา ปัญญา พร้อม(ท์)
นายอเส สุขยางค์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงานสถาปนิก’69 ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 38 ถือเป็นงานแสดงเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดและแสดงนิทรรศการงานสถาปัตยกรรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานทางวิชาชีพสถาปัตยกรรมและกิจกรรมของสมาคมฯ รวมถึงเป็นสื่อกลางในการจัดแสดงการออกแบบ งานสถาปัตยกรรม นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับงานสถาปัตยกรรมครบวงจร ตลอดจนส่งเสริมวิชาชีพทางสถาปัตยกรรมแก่สมาชิก นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงบทบาทการพัฒนาสังคมและการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

สมาคมสถาปนิกสยามฯ มีพันธกิจที่มุ่งเน้นส่งเสริม สนับสนุน และเผยแพร่ การศึกษา ค้นคว้า การวิจัยและพัฒนา เพื่อความก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมและทันกับการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย งานสถาปนิก’69 ยังคงต่อยอดการจัดงานสถาปนิกครั้งที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสครบรอบ 93 ปี การก่อตั้งสมาคมฯ และได้วางแนวคิดการจัดงานให้ตระหนักรู้ปัจจุบันและทิศทางอนาคต ภายใต้ธีม “สติมา : ปัญญา : พร้อม(ท์) | SATI : WISDOM : PROMPT” เป็นการเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรอบด้าน ทั้งในแง่ของการแข่งขันทางเศรษฐกิจ, การจ้างงาน, รวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีบทบาทและท้าทายต่อรูปแบบการใช้ชีวิต และระบบวิธีคิดของผู้คน เพื่อเตรียมพร้อมก้าวข้ามไปสู่อนาคต และในมุมของสถาปัตยกรรมจะต้องมีการเข้าใจ ปรับตัว เตรียมพร้อมเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ของ สังคมและผลักดันทิศทางการยกระดับสถาปัตยกรรมไทยไปสู่สากลได้

นายจาตุรนต์ กิ่งมิ่งแฮ ประธานจัดงานสถาปนิก’69 กล่าวว่า ภาพรวมความคาดหวังของการจัดงานโดยความตั้งใจยกระดับการจัดแสดงงานให้เป็นที่จดจำในระดับอาเซียน ในฐานะพื้นที่จุดประกายพลังสร้างสรรค์ ที่พาทุกคนไปสัมผัสบทบาทของสถาปนิกที่มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิต ควบคู่การจัดแสดงสินค้าและเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยกำหนดหมายหมุดสำคัญคือ การเป็น The Most Influential Architecture Exhibition in ASEAN หรือ เป็นการจัดงานแสดงนิทรรศการสถาปัตยกรรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอาเซียน ที่สะท้อนพลังความคิดสร้างสรรค์ของงานสถาปัตยกรรมและวิชาชีพสถาปัตยกรรม ภายใต้แนวคิด “สติมา : ปัญญา : พร้อม(ท์) | SATI : WISDOM : PROMPT” กระตุ้นให้ผู้คนมองอนาคต ขณะเดียวกันก็เข้าใจปัจจุบัน ตัวตน และรากเหง้าของเราโดยดึงศักยภาพและองค์ความรู้ ทั้งภูมิปัญญาดั้งเดิมและท้องถิ่น และองค์ความรู้ร่วมสมัย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาสำคัญของมนุษย์ ควบคู่ไปกับ ปัญญาประดิษฐ์ มาผสมผสานนําเสนอสู่เวทีระดับโลกต่อไป
“งานสถาปนิก’69 ให้ความสำคัญภายใต้นโยบาย “ASA100 SUSTAINABLE : TOWARDS SUSTAINABLE ASA ARCHITECT EXPO” โดยมุ่งขับเคลื่อนแนวทางการออกแบบและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองและลดปริมาณขยะเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเชิญชวนให้ผู้แสดงสินค้าได้นำเสนอรูปแบบการจัดแสดงบูธตามระดับความพร้อมที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างการรับรู้ในระดับสังคมวงกว้าง ผ่านการสำรวจเช็คลิสท์ประเมินผล เพื่อรับรางวัล “ASA GREEN PAVILION AWARDS” สำหรับบูธยอดเยี่ยมประจำปี โดยมีเป้าหมายคือยกระดับมาตรฐานพาวิเลียน บูธแสดงสินค้า เพื่อร่วมกันลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อถึงวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี สมาคมสถาปนิกสยามฯ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ และเพื่อร่วมกันสร้างรากฐานการแสดงสินค้าที่ยั่งยืน”
นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดงานสถาปนิก’69 กล่าวว่า “งานสถาปนิก (Architect Expo) ซึ่งจัดโดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดของวงการสถาปัตยกรรมและก่อสร้างไทย ด้วยพื้นที่รวมกว่า 75,000 ตารางเมตร รวมผู้แสดงสินค้ามากกว่า 1,000 บริษัทชั้นนำ โดยเป็นผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศราว 18% ที่ร่วมกันนำเสนอนวัตกรรมและบริการด้านการออกแบบและการก่อสร้างกว่า 100,000 รายการ และมีจำนวนผู้เข้าชมงานตลอด 6 วันกว่า 325,000 คน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนภายในงานมากกว่า 22,000 ล้านบาท งานสถาปนิกจึงนับว่าเป็นหนึ่งในดัชนีสำคัญที่สะท้อนแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี งานนี้ยังมีบทบาทเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) ที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายแขนง ทั้งวัสดุก่อสร้าง การออกแบบภายใน อสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนธุรกิจบริการ เช่น โลจิสติกส์ สื่อโฆษณา และการจัดอีเวนท์ ซึ่งทั้งหมดช่วยสร้างการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุน และขยายโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม”
“สำหรับข้อมูลผู้เข้าชมงานสถาปนิก’68 กว่า 3.25 แสนคน คิดเป็นสัดส่วนผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมออกแบบและก่อสร้างกว่า 65% โดยกลุ่มอาชีพที่เข้าชมงานมากที่สุดคือ สถาปนิก คิดเป็น 14.19% รองลงมาคือ ดีไซเนอร์ 8.94% ผู้รับเหมา 8.13% วิศวกร 7.60% ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ค้าส่งวัสดุก่อสร้าง 6.68% และนักลงทุนหรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4.04% ขณะที่หากจำแนกตามระดับตำแหน่งงาน พบว่า เจ้าของธุรกิจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อธุรกิจจะครองสัดส่วนสูงสุดถึง 22.61% ตามด้วยระดับหัวหน้างาน 7.24% ระดับผู้บริหารระดับกลาง 5.45% และผู้บริหารระดับสูง 4.46% ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่างานสถาปนิกเป็นจุดเชื่อมโยงเครือข่ายผู้มีอำนาจตัดสินใจในภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่ระดับนักออกแบบมืออาชีพไปจนถึงนักลงทุนรายใหญ่”




