• 9 พฤษภาคม 2024
  • Thailand

จับตาทิศทางเงินเฟ้อ ตัวชี้วัดเศรษฐกิจประเทศกับรัฐบาลปี 2562

จับตาทิศทางเงินเฟ้อ ตัวชี้วัดเศรษฐกิจประเทศกับรัฐบาลปี 2562

จับตาทิศทางเงินเฟ้อ ตัวชี้วัดเศรษฐกิจประเทศกับรัฐบาลปี 2562

ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 2/2562 ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2562 อยู่ที่ 1.0 จากปี 2561 อยู่ที่ 1.1 อัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานปี 2562 อยู่ที่ 0.8 จากปี 2561 อยู่ที่ 0.7 ซึ่งภาพรวมประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังมีความเสี่ยงต่ำ ขณะที่สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือนมี.ค. 2562 อยู่ที่ 102.37 ขยายตัว 1.24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและขยายตัว 0.41% จากเดือน ก.พ.62 ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CORE CPI) อยู่ที่ 102.34 ขยายตัว 0.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 0.02% จากเดือน ก.พ.62

ส่วนดัชนีอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ที่ 103.32 เพิ่มขึ้น 2.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.20% จากเดือน ก.พ.62 ส่วนดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 101.84 เพิ่มขึ้น 0.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.52% จากเดือน ก.พ.62 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 1/62 ขยายตัว 0.74% ส่วน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ขยายตัว 0.62% จะสังเกตเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศเดือนมี.ค. 2562 มีอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นจากปีเดียวกันถึง 1.24% หากอัตราเงินเฟ้อในแต่ละเดือนยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ประชาชน มีภาระค่าครองชีพสูง ความสามารถในการจับจ่ายสินค้าและบริการน้อยลง อาจส่งผลระยะยาวด้วยการมีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ด้านการลงทุนยอดขายของผู้ประกอบการก็ลดลง เพราะผู้บริโภคไม่ซื้อสินค้า รวมทั้งต้นทุนในการผลิตอาจจะสูงขึ้นแน่นอนว่าต้องลดต้นทุนส่งผลให้เกิดการตกงานตามมาเช่นกัน

นอกจากนี้ในภาพรวมของประเทศยังทำให้ความสามารถในการแข่งขันธุรกิจในประเทศชะลอตัวและศักยภาพในการผลิตของประเทศอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เนื่องจากสินค้าส่งออกมีราคาสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น อย่างไรก็ตามหลังมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมาถึงแม้ว่ายังไม่มีข้อสรุปในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ก็หวังว่ารัฐบาลที่เข้ามาจะช่วยทำให้อัตราเงินเฟ้อภาพรวมทั้งปี อยู่ระดับที่ต่ำ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น เพราะเรื่องเศรษฐกิจถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า ประเทศได้พัฒนาจริงหรือไม่